"เข้าใจ แล้วครับพ่อ"
ผมพยักหน้าหงึกๆ อย่างงัวเงียขณะที่ซุกหน้าลงกับหมอนนุ่ม วันนี้ยังไม่ต้องไปโรงเรียนเพราะว่ายังไม่เปิดเทอมผมก็เลยนอนตื่นสายได้ ผมหัวเราะออกมาเมื่อจู่ๆ มือหนานั้นก็สอดเข้ามาภายในเสื้อลูบไปตามเอวของผมด้วยความที่มือนั้นเย็นจึงทำให้ผมสะท้านตัวสั่น หนวดเคราแข็งๆ ที่ผุดขึ้นมาจากสันคางนั้นถูกกดลงมาที่ต้นคอของผม
"พ่ออ..."
"ไปแล้วนะ"
มือของผมโผล่พ้นออกมาจากที่นอนโบหยอยๆ ให้แก่อีกฝ่าย แต่ทว่าหน้าของผมกลับถูกยึดจับเอาไว้มือหนากอบกุมลงมาผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างลำบากตอนที่ถูกอีกฝ่ายนั้นกดจูบลงมา
"พ่อครับ"
"จะไปจริงๆ แล้ว..."
ริมฝีปากของคนตรงหน้านั้นถูกถอนออกช้าๆ ผมปรือตาขึ้นมามองผู้ชายวัยกลางคนที่ยังคงความหล่อเหลาตรงหน้ายิ้มๆ
"พ่อครับ"
"ขี้เซานะเรานะ อย่านอนเยอะละ เดี๋ยวก็สันหลังยาวหรอก"
ว่าแล้วพ่อก็สอดมือเข้ามาจับที่เอวของผมจนผมสะดุ้ง
"ข้าวก็อุ่นเอานะ คีย์ทำเอาไว้ให้แนะ"
"ครับ"
ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่จะเอียงคอเมื่อคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงนั้นกดจูบลงมาที่หน้าผาก จากนั้นพ่อก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียง... จะได้ไปโรงเรียนแล้ว ไม่ได้ไปตั้งสองปีแนะ ถึงแม้ว่าจะเรียนแล้วก็ตามทันเพื่อนๆ ก็เถอะ แล้วตอนนี้ก็ย้ายที่เรียนใหม่ตอนกลางเทอม... จะมีเพื่อนกับเขามั้ยนะ ผมขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอนเมื่อได้ยินเสียงรถคันโปรดของพ่อนั้นแล่นออกไป ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในห้องน้ำเพื่อที่จะทำธุระส่วนตัว
ครืดด
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอ? "
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาพร้อมทั้งมือที่เอื้อมมาจับที่ท้ายทอยของผม ผมหันกลับไปมองคนที่ทักขึ้นมา อย่างงุนงงตอนที่กำลังจะนั่งกินข้าว
"พี่คีย์..."
"จำได้จริงๆ ด้วย อรุณสวัสดิ์"
"สายแล้ว"
อีกฝ่ายนั้นหัวเราะออกมาเมื่อผมตอบกลับเสียงนิ่ง ตอนนี้พี่แกยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย... ชุดนอนลายทางสีขาวดำซะด้วยเป็นสีที่ผมชอบพอๆ กับสีเทาอีกต่างหาก
"วันนี้ไม่ไปถ่ายหนังเหรอ? "
"พึ่งจะปิดกองไปนะ คงอีกหลายวันเลยกว่าจะถ่ายอีกเรื่อง ถ้าไม่มีอีกเว้นก็คงจะอยู่บ้าน"
งั้นเหรอ... คงจะทำงานหนักน่าดูเลยนะ ทั้งๆ ที่ครอบครัวเราก็มีเงินทองมากมายเพราะมีเชื้อเจ้า แถมยังมีเชื้อสายของคนญี่ปุ่นที่คุณปู่เป็นนักการเมืองแท้ๆ ... แต่ทำไมยังจะต้องทำงานหามรุ่มหามค่ำแบบนี้กันนะ ทุกคนเลย...
"แล้วเต้ละ? "
"ยังไม่ตื่นนะ"
"มา กินข้าวกันเถอะ"
มือหนานั้นดันมาที่แผ่นหลังของผมเบาๆ ให้นั่งลงกับเก้าอี้ แล้วอีกฝ่ายก็เดินไปที่ครัว ชายหนุ่มร่างสูงนั้นไปตักเอาข้าวมาสองจานแล้วก็วางลงตรงหน้าผม
"พี่ยังไม่กินเหรอครับ? "
"รอเค้กไง"
"น่าจะกินก่อนแท้ๆ "
อีกฝ่ายอมยิ้มออกมาพร้อมทั้งเอื้อมมือมาลูบที่หัวของผม แล้วก็กินข้าวไปเงียบๆ โดยที่ไม่พูดอะไรต่อ
"พี่จ๋า..."
หมับ
ขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้นจู่ๆ แรงกอดจากทางด้านหลังก็ทำเอาผมแทบจะสำลักข้าว เมื่อคนที่เำิ่งจะพูดถึงเมื่อกี้นั้นมันกอดรอบคอของผมพลางซบหน้าลงกับแก้มจนแก้มเราสองคนนั้นถูไถเข้าหากัน
"เต้อย่ากวนพี่"
"ทำไมวะ? ไม่ได้กวนมึงซะหน่อย"
คำพูดที่หยาบคายของเต้นั้นมันดังขึ้นมาที่ข้างหูทำให้ผมถึงกับซะงักไปก่อนที่คนที่ได้ชื่อว่าน้องชายของผมนั้นจะนั่งลงข้างๆ ผมอีกคน
"เต้..."
"ไม่เป็นไรหรอกเค้ก ปกติแล้วที่บ้านนี้ก็พูดแบบนี้แหละ"
"เอ่อ..."
แต่มัน... ก็ฟังดูไม่ดีเท่าไหร่เลยนะ อีกทั้งยัง อีกทั้งเต้มันยังเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านอีก
"ใช่ พี่เค้ก ในบ้านมีแค่พี่นั่นแหละที่พูดสุภาพคนเดียว เอางี้มะ... ผมจะสอนวิถีลูกผู้ชายให้ โอ๊ย! "
ผมหัวเราะออกมาตอนที่เต้มันถูกฝ่ามือของพี่คีย์ฟาดเข้าที่หัว
"อย่าเสือกสอนอะไรไม่ดีให้พี่มึงเชียว"
"อะไรวะ ถ้าไม่เรียนรู้สิ่งไม่ดี จะรู้เหรอว่ามันไม่ดี พี่เค้กว่าปะ? "
"นั่นสิ"
ก็จริงอย่างที่ว่ามานั่นแหละ...
"ป้อนหน่อยครับ อ้า..."
"กินเองสิ"
เสียงคัดค้านจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ของผมนั้นดังขึ้นมาเมื่อจู่ๆ เต้มันก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วอ้าปากรอให้ผมป้อนข้าวให้ ผมก็ยอมทำตามใจโดยคีบเนื้อเข้าปากของอีกฝ่าย
"อร่อย..."
"พี่คีย์ทำนะ"
เต้มันแลบลิ้นออกมาเลียตระเกียบของผมแถมยังอมแล้วรูดซะน้ำลายเยิ้มเลย ทำเอาผมถึงกับหน้าตึงขึ้นมาแต่มันก็ยังหัวเราะไม่หยุด
"ไม่ หมายถึง... ที่พี่ป้อนผมต่างหากละ"
"หึ"
พี่คีย์หัวเราะภายในลำคอ ไม่พูดอะไรแล้วก็กินข้าวของตัวเองไปเงียบๆ โดยที่ปล่อยให้ผมนั้นป้อนเจ้าน้องชายตัวแสบนี่อยู่คนเดียว อะไรจะติดพี่ขนาดนี้...
...........................................................................
มาแบบสั้นๆ ไม่ค่อยมีเวลาเลย ปวดหัวอะ ปวดข้างเดียว แล้วมันก็สลับข้าง ปวดซ้ายที ขวาที ปวดจนทะลุตาเลย... ตะเตือนใตมาก เจ็บจนจะร้องไห้ ถถถถถถถถ กินยาก็ไม่หายอีก ดื้อยาจริมๆ
มาอัพสั้นๆให้ได้อ่านแค่นี้เราก็ดีใจแล้วค่ะ หายป่วยไวๆน้าาาพักผ่อนเยอะๆค่ะไรท์ รอตอนต่อไปจ้าาาา
ตอบลบสู้ๆนะคะไรต์ เรื่องนี้สนุกง่า ขอติดตามนะคะะ รอตอนต่อไปนะคะะ
ตอบลบ