พุยพุย

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560

ครอบครัวที่รัก [Kiseki And KagamiX Kuroko]

"ค่อยๆกินก็ได้นะโทระ"

มือบางลูบไปลงหัวของลูกชายเบาๆ เมื่อเห็นว่าโทระนั้นเอาแต่ดูดอยู่อย่างกระหาย

"มาม๊า..อีกข้างหนึ่ง ขอผมดูดได้ไหม?"

เป็นเอสึชิเองที่เอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นน้ำนมไหลซืมออกมาจากอีกข้าง พวกเขานั้นรีบอาบน้ำให้เสร็จทันทีขณะที่กำลังอาบน้ำโทระก็เอาแต่งอแง แต่จะให้กินทั้งๆที่อยู่ในนั้นดี๋ยวจะไม่สบายเอา

"ได้สิ แค่นิดเดียวนะ จะต้องทานข้าวด้วย"

"อื้อๆ"

"อะไรกัน เอสึชิจจิขี้โกงนี่ มาม๊าขอผมด้วยสิฮะ ผมก็อยากกินน๊มน่มของมาม๊า"

เรียวขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาตกลง ถึงได้บอกไงว่าอยากให้อยู่กันแค่สองคนก่อน.พวกที่เหลือต่างพากันจับจ้องมายังหน้าอกที่มีน้ำนมซืมออกมาราวกับกำลังขอร้องไปในตัว

"เฮ้อ ทุกคนรอไปก่อนนะ"

"เย้~"

เขาพิงตัวลงกับโซฟาในห้องโถงเพื่อให้นั่งได้สบาย เอสึชิแนบปากลงกับยอดอกสีแดงทันทีลากลิ้นตั้งแต่หน้าท้องที่มีน้ำนมไหลลงมาจนถึงปลาย ทำเอาร่างของคุโรโกะสั่นสะท้าน

"อื่ก...เอสึชิ เบาๆมาม๊าเจ็บ"

เพราถูกดูดแรงเกินไปนะสิ

"ขอโทษครับ~"

จ๊วบ

สีหน้าของเอสึชิบ่งบอกถึงความสุขเมื่อได้ดูดนมจากเต้าที่อุ่นๆของแม่ หลับตาพริ้มเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

"เร็วๆสิ เอสึชิ"

ไดสุเกะเร่งเร้าแล้วก็อยากจะดื่มเหมือนกัน ทำเอาคุโรโกะยิ้มบาง ยังไม่โตกันเลยสินะนะเนี่ย

"อ่า..อร่อย ขอบคุณสำหรับอาหารครับ"

"ผมต่อนะฮะ น้า~"

ทันทีที่เอสึชิถอนปากออกมา พรางเช็ดมุมปาก แม้จะยังเสียดายแต่ก็ยังให้คนอื่นๆได้กินด้วย





"ทำไมมานอนกองกันตรงนี้ละเนี่ย?"

เสียงทุ่มดังขึ้นเหนือหัวเมื่อเห็นลูกชายทั้งหลายต่างพากันหลับปุ๋ยยกเว้นมิโดริที่กำลังห่มผ้าให้ทุกคนอยู่

"กินนมมาม๊าจนหลับไปเลยนะสิ"

"กลางดึกได้ตื่นมาโวยวายกินข้าวแน่ๆแบบนี้"

คางามิพูดขึ้นก่อนจะอุ้มคนที่นั่งซืมตาจะปิดอยู่ให้ไปทางห้องทานข้าว

"มิโดริจจิ ไม่ได้กินสินะ ไปเถอะไปทานข้าวกัน ปล่อยไว้ตรงนี้แหละ"

คิเสะลูบหัวมิโดริก่อนจะพากันเดินตามอีกสองคนนั้นไป

"อย่าเพิ่งหลับละ ทานข้าวก่อนนะ"

ร่างบางถูกจับพิงไหล่หนาของคางามิก่อนจะป้อนข้าวต้มอ่อนๆสำหรับคนท้องให้กับคุโรโกะ ปากบางอ้ากว้างก่อนจะรับอาหารเข้าปากไป รู้สึกเพลียกับการถูกลูกๆรุมล้อมแบบนั้นซะจริงๆ

"ลำบากเลยนะ มีแต่ปีศาจทั้งนั้นเลยนี่"

อาคาชิอมยิ้มให้กับภรรยาสุดน่ารักของตน สงสัยงานฉลองคงมีไว้พรุ่งนี้แน่ๆ อาหารคงเหลือเยอะเลย

"ทานเนื้อด้วยสิมิโดริ กินผักก็ดีอยู่หรอก"

อาโอมิเนะคีบเนื้อลงจานให้กับลูกคนที่5อย่างขำๆ เมื่อเห็นแต่อีกคนนั้นเอาแต่ทานผัก







"พาไปแล้วเหรอครับ?"

หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จ เขาก็ถูกพาขึ้นมาที่ห้องทันที ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังง่วงอยู่เลยแท้ๆแต่มาตอนนี้กลับตาสว่างซะงั้น

"อื้อ...หลับปุ๋ยเลยละ~ คุโรชินก็นอนเถอะนะ"

มุราซากิบาระตอบรับ เพราะเขาอุ้มเด็กๆไปนอนที่ห้องข้างๆนั้นหมดแล้ว ห้องนอนนั้นมีหลายห้องอยู่ก็จริง แต่ที่ใช้อยู่นั้นมีแค่สองห้อง เป็นห้องของเด็กๆที่อยู่ข้างๆเปิดประตูเลื่อนก็สามารถเข้าไปดูได้ อีกห้องคือห้องของพวกเขา ฟูกหนาเรียงรายกันอยู่เพราะถูกจัดไว้ก่อนที่จะทานข้าวอีกไม่คนใดก็คนหนึ่งที่จัดการ ทั้งบ้านเงียบกริบ หลังจากที่เด็กๆพากันนอน เหลือเพียงผู้ใญ่ที่ต่างพากันเตรียมจะเข้านอน

"ผมยังไม่ง่วง"

"เอ๋~ ทำไมละ นอนเถอะเดี๋ยวลูกในท้องจะไม่สบายน้า อื้อ"

ยังไม่ทันที่จะกล่าวจบ ร่างบางพุ่งตัวประกบจูบกับคนที่ตัวใหญ่ก่วาทันที มุราซากิบาระตั้งสติอยู่ชักพักก่อนจะตอบโต้แลกลิ้นกับคุโรโกะ

"น่ารักจังเลย"

"อื้อ..อ๊ะ"

แผ่นอกบางกระเพื้อมเมื่อถูกปากกอบกุมยอดอกที่หลั่งน้ำนมออกมา ลูบหัวให้กับคนเป็นสามีเบาๆก่อนจะถูกมือของใครอีกคนหนึ่งนั้นสอดนิ้วเข้ามา

"อ๊ะ อ่า มิโดริมะคุง"

"อืม...จนก่วาจะท้องโตคงทำได้เรื่อยๆละนะ"

ความอ่อนโยนที่ได้รับมากก่วาปกติทำเอาเขาหลั่งน้ำตาด้วยความยินดี เพราะถูกรักและดูแลดีขนาดนี้ ถึงได้ไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาขอร้อง

"ช่วยนอนลงทีนะ"

ร่างบางถูกจับนอนตะแคงเบาๆอย่างกับกลัวว่าจะแตกหัก ขาเรียวถูกรั้งขึ้นตั้งฉากกับพึ้น แก่นกายใหญ่สอดใส่เข้าไปในช่องทางที่ถูกนำร่องจนขยายอย่างอ่อนโยน
อื่ก…”

เจ็บไหม? ไม่เป็นไรนะ?”

คะ ครับไม่เป็นไร

เขารับคำก่อนจะลูบลงไปที่ไหล่ของมิโดริมะเบาๆเพื่อเป็นการบ่งบอกว่ายังโอเค ร่างสูงที่ซ้อนหลังนั้นขยับเคลื่อนตัวเบาๆ ขณะที่หน้าอกนั้นมีมุราซากิบาระคอยดูดซับน้ำนมให้อยู่

อะอ๊ะ…”

อื้อมอื่ก จะปล่อยเข้าไปข้างในนะ?”

ร่างสูงเอ่ยขึ้นก่อนจะสอดลึกเข้าไปจนสุดความยาวร่างกายสั่นสะท้านเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อนๆที่สาดรดเข้ามา ร่างกายเปียกซุ่มไปด้วยเหงื่อและน้ำรักทั้งของตนและของมุราซากิบาระ ถูกกอดไว้อย่างอ่อนโยนภายใต้อ้อมแขนหนา

หลับไปซะแล้ว เสียดายจังฮะผมก็อยากทำแท้

เหมือนในความรู้สึกจะได้ยินเสียงเปิดประตูบานเลื่อนเข้ามา ร่างกายถูกจับนอนหงายก่อนจะมีสิ่งอุ่นร้อนเข้ามาหลายต่อหลายครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังรู้สึกดีไปกับมัน ทุกคนต่างก็ใจดีกับเขาทั้งนั้น

อย่าทำเยอะละ เดี๋ยวไม่สบายกันพอดี

อาคาชิเป็นคนเอ่ยขึ้นภายใต้ความเงียบที่ปกครุมทั่วทั้งห้อง ชายหนุ่มทั้งหลายต่างก็พากันดำเนินสิ่งที่ตัวเองอยากกระทำต่อไปจนถึงที่สุด


1 ความคิดเห็น: