"กลับมาแล้วครับ...คุณพ่อ"
เสียงหวานดังขึ้นเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปในห้องโถงขนาดสำหรับอาศัยอยู่2คน
มือเล็กเกาะเกี่ยวรองเท้านักเรียนออกให้พ้นก่อนจะวางไว้บนชั้นวางตามปกติ
หันไปล็อคประตูดังที่เคยทำ ก่อนจะเดินเข้าไปตามทางเดิน ทางช้ายคือห้องครัวขนาดไม่ก้วางและก็ไม่แคบเท่าไหร่
ด้านขวาเป็นห้องโถงไว้สำหรับทานข้าว ดูทีวี และ กิจกรรมอื่นๆ
ถัดไปตรงหน้าคือทางบันไดสู่ชั้นสอง พ่อของเขาน่าจะอยู่ข้างบนนั้น
เขาจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าฉะเพาะใส่ในบ้านเสร็จก่อนจะลงมือทำกับข้าวแบบง่ายๆ
เหมือนกับที่เคยทำมาหลายปี
ร่างเล็กง่วนอยู่กับการทำอาหารจนไม่ได้สังเกตุว่ามีอีกคนที่คล้ายกันเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
"กลับมาแล้วเหรอ?"
จุ๊บ
รอยจูบตรงแก้มกับมือหนาที่สางเส้นผมสีฟ้าเบาๆไม่ได้ทำให้คุโรโกะตกใจ
เขาพยักหน้าเบาๆก่อนจะทำอาหารต่ออีกครั้ง
"ไปรอก่อนนะครับ
เดี๋ยวผมจะยกไป"
"อืม"
เสียงตอบรับคำดังห่างออกไปก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักตรงห้องโถง...มายุซุมิ
จิฮิโระ พ่อของเขา มีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย ที่มีชื่อเสียงแต่ไม่แสดงตัวต่อฝูงชน
แนวนิยายคือความรักระหว่างหนุ่มสาววัยรุ่นที่มีเสียงตอบรับข่อนข้างมาก
และเพราะนิสัยที่เงียบขรึมทำให้ยิ่งเป็นจุดเด่นขึ้นไปอีก
ผมคือลูกชายของเขา...แต่เป็นลูกที่เขาบังเอิญไปมีอะไรกับผู้หญิงตอนเรียน
ม ปลาย เลยทำให้เขาต้องมีความรับผิดชอบตั้งแต่ยังวัยรุ่น แม่ทิ้งเขาไว้กับพ่อ
โดยที่ไม่สนใจจะห่วงอะไรเลยมีแต่คนๆนี้ที่ยังคอยเลี้ยงดูเขา...เลี้ยงดูแบบต่างจากบ้านทั่วไป
เขาไม่ได้คิดว่าผมเป็นลูกของเขา
เขาชอบให้เรียกเขาว่า จิฮิโระ มากก่วาคำว่า 'พ่อ' มีคนชอบพูดว่านักเขียนชื่อดังมักจะมีความคิดแปลกๆ
ชึ่งนั่นก็จริง
"เสร็จแล้วครับ"
ร่างเล็กวางจานกับข้าว2ชุดไว้บนโต๊ะเตี้ยหน้าทีวีก่อนจะเดินไปล้างมืออีกรอบแล้วถอดผ้ากันเปื้อนไว้ที่เดิม
"เรียนที่ใหม่เป็นไงบ้าง?"
ชายหนุ่มผมสีควันบุหรี่เอ่ยขึ้นขณะที่กำลังทานข้าวไปด้วยตามองทีวีไปด้วยน้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
"ก็ดีครับ..."
คุโรโกะตอบกลับเบาๆ
สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องย้ายโรงเรียนไปทุกปีเพราะงานของพ่อของเขา
ต้องเปี่ยนที่ทุกๆปีด้วยเรื่องงานของอีกคน
เพราแรงบันดาลใจของคนๆนี้มันต่างจากคนอื่นนะสิ
เพื่อนที่เคยรู้จักกันแค่ไม่นานก็ต้องมาจากกันทุกที
“เพื่อนละ?”
“เอ๊ะ?”
ร่างบางครางฮือในลำคอพร้อมกับเอียงคอมองอย่างสงสัยเมื่อได้ยินคำถามเรียบเฉยทักขึ้นอีกครั้ง
“เพื่อนใหม่นะ”
มายูซึมิเอยขึ้นอีกครั้งขณะที่คีบเนื้อหมูให้อีกคนที่อยู่ตรงข้าม
“เนบูยะชัง
ที่นั่งอยู่ข้างๆครับ อิคิจิ เนบูยะ”
คุโรโกะเจอเขาในขณะที่กินข้าวกลางวันอยู่ที่ดาดฟ้าของโรงเรียนตอนพักเที่ยงคุยกันไปมานิดหน่อยก็เลยเป็นเพื่อนกันแถมยังนั่งติดกันอีก
“ผู้ชาย?”
“ครับ”
ไม่รู้ทำไมพ่อของเขาถึงไม่ค่อยชอบให้เขาคบกับเพื่อนที่เป็นผู้ชายเลย
แต่ก็พอจะยอมได้ถ้าหากว่าเขาไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนที่เป็นผู้ชายด้วยกันที่บ้านหรือที่ต่างๆถ้าเป็นเพื่อนกันที่โรงเรียนก็ไม่มีปัญหาอะไร
“อิ่มแล้ว เสร็จแล้วตามขึ้นไปด้วยละ”
มายูซึมิบอกพร้อมกับลุกขึ้นเอาจานไปเก็บก่อนจะขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยที่ทิ้งให้เขานั่งกินข้าวอยู่ในห้องโถงเงียบๆคนเดียว
เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกๆวันนับตั้งแต่ตอนเขาอายุได้ 12 ขวบ
พ่อของเขาเปลี่ยนไปมากหลังจากที่วันหนึ่งเห็นเขาไปเที่ยวกับเพื่อนที่เป็นผู้ชายโดยไม่บอกจนกลับมาดึก
ทั้งๆที่ปกติจะไม่ค่อยพูดด้วยแต่วันนั้นกลับดุเขาจนเขาร้องไห้จ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นโดยแขนแกร่งนั้นกอดรัดแน่นพร้อมกับบอกขอโทษหลายครั้ง
นับตั้งแต่นั้นมาจากที่ไม่ค่อยได้คุยกันพ่อของเขาก็เริ่มที่จะดูแลเขาบ้าง
นึกอยู่ตลอดว่าไม่รักเขาที่เกิดจากความผิดพลาด
แต่ว่าวันนั้นทำให้เขารู้ว่าพ่อก็รักเขาเหมือนกัน ตอนนี้เขาอยู่ ม ปลายปี1
แล้วเรื่องการพูดจาน้อยเป็นเรื่องปกติเหมือนกับถูกเย็นซาใส่
แต่เปล่าเลยพ่อของเขาแค่แสดงออกไม่เก่งแค่นั้นเอง
“ไปอาบน้ำสิ
เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว”
ร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องน้ำตามที่บอกก่อนจะถอดเสื้อผ้าไว้บนชั้นวางของที่จะชัก
ร่างกายผ่อนคลายลงทันทีเมื่อแซ่ลำตัวเข้าไปในอ่างอาบน้ำ ผิวขาวราวกับจะมองทะลุได้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะความร้อนของน้ำที่อยู่ในอ่าง
หลังจากอาบน้ำเสร็จเขาถูกสั่งให้สวมชุดยูคาตะสีฟ้าโดยที่ไม่มีชั้นในปกปิดส่วนล่างมันรู้สึกแปลกๆเมื่อต้องอยู่ในสภาพนี้
“แยกขาออก
กว้างๆ”
ร่างบางนั่งลงบนตักตามที่ถูกแขนใหญ่ๆของอีกคนฉุดลงโดยไม่ปริปากพูดอะไรชักคำแยกขาออกจนสุดความกว้างตามที่บอกโดยที่กอดแขนของอีกคนไว้เบาๆ
“ไม่ต้องกลัว”
ริมฝีปากอุ่นทาบทับลงมาตรงขบับก่อนจะกดจูบหนักๆที่ใบหูแดงระเรื่อของอีกคนมือหนาพยายามล้วงเข้าไปตรงชุดที่สวมอยู่ลูบไล้ตรงขาอ่อนจนคุโรโกะเริ่มเคลิ้มตาม
“พ่อครับ…อ๊ะ”
“จิฮิโระ”
“จะ
จิฮิโระ”
ร่างบางพูดออกมาด้วยคำติดๆขัดๆก่อนจะถูกมือหนารูดรั้งแก่นกายที่กำลังตั้งซูชันอยู่ตรงหน้าทำเอาใบหน้าร้อนวาบ
บั้นท้ายสำผัสได้ถึงความใหญ่โตที่ดุนดันผ่านเนื้อผ้ามันร้อนผ่าวจนเขาต้องขัยบหนีแต่ก็ไม่พ้นเมื่อมือใหญ่รัดเอวแน่นขึ้นไปอีก
“อื่ก อื้อ
อื้อ จิฮิโระ ออกแล้ว อ๊า!”
ร่างบางกระตุกหนักๆสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยของเหลวสีขุ่นออกมาจนเปื้อนมือหนาที่รูดรั้งแก่นกายของเขาอยู่
“ออกมาเยอะเชียว”
“อ๊ะ…”
มายูซึมิใช้มือที่เปียกไปด้วยน้ำสีขุ่นของร่างเล็กสอดส่ายเข้าไปในช่องทางนุ่มลื่นทันทีเมื่อคิดว่าอีกคนเริ่มรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง
แรงตอดรัดภายในช่องทางทำให้อารมณ์ความต้องการพุ่งพล่าน
นิ้วเรียวยาวลุกล้ำสอดคว้านเข้าไปในช่องทางคับแคบที่คุ้นเคยก่อนจะยกสะโพกขาวนวนนั้นขึ้นสอดส่ายแก่นกายร้อนผะผ่าวเข้าไปจนสุดความยาว
ทำให้ช่องทางตอดรัดตุบๆด้วยความคุ้นเคย
"อ๊ะ มันลึก..มากเลยครับ"
"ขอโทษที..ฮื่ม..มันแน่นไปนะ"
ระ รู้สึกดี
"อ๊า!? ไม่ จิฮิโระ..แบบนั้นมัน"
แรงกระแทกจากด้านหลังหยุดลงฉับพลันถอนแก่นกายออกอย่างแรงจนเกิดเสียงน่าอายดังขึ้นภายในห้องก่อนจะกดกระแทกเข้าไปจนสุดอีกครั้งทำให้คุโรโกะสั่นระริกไปทั้งตัวด้วยความสุขสม
ทำแบบนี้กับพ่อของตัวเอง แบบนี้มัน
“อื่ก”
“อย่าห่วงเลย
ฉันรักเท็ตสึยะ”
เขาเข้าใจความหมายดีถึงคำว่ารักของอีกคนที่พูดออกมามันคือรักที่เขามีให้ทุกวัน
เขาไม่ได้รับความรักจากใครในบ้านทั้งญาติๆต่างก็พากันรังเกียจ
มีแต่พ่อของเขาที่ดูแลเขาและรักเขา
“ปะป๋า”
“หือ? ดีนี่ ที่เรียกแบบนั้น”
มายูซึมิยิ้มแก้มปริก่อนจะคว้าใบหน้าของร่างเล็กที่ถูกกระแทกกระทั้นอยู่ให้หันมารับจูบเร้าร้อนจากเขา
เด็กคนนี้เป็นของเขา ของเขาตั้งแต่ที่เกิดมา
ใครก็จะมาแย่งไม่ได้เขาหลงรักเด็กคนนี้แค่คนนี้เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อเขา
ทำได้ทุกอย่าง
“อ๊า
อ๊า”
“เท็ตสึยะ”
เสียงกระชิบแหบพร่าดังขึ้นก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางร่างกายอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งถูนรนไฟ
แรงโอบรัดจากทางด้านหลังทำให้คุโรโกะรู้สึกดี
มายูซึมิพาร่างเล็กที่อ่อนล้าเข้าไปล้างตัวก่อนจะอุ้มกลับมานอนที่ฟูก
มือใหญ่ลูบปอยผมที่อ่อนนุ่มก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ เท็ตสึยะ… รักนะ เท็ตสึยะ
จะไม่ให้ใครเข้ามาแทรกกลางระหว่างเราสองคนแน่
“ไปละนะครับ”
เช้าวันใหม่ผ่านเข้ามาอีกครั้ง
ร่างเล็กเดินขึ้นไปบนห้องของพ่อของเขาก่อนจะลาไปโรงเรียนตามปกติ
“อืม
ไปดีมาดีนะ”
รอยจูบประทับลงบนหน้าผากเบาๆก่อนจะลูบผมสีฟ้าใสด้วยความรัก
แค่อยู่แบบนี้ ไม่ว่าใครจะว่าอะไร ก็ไม่สนใจทั้งนั้น เพราะเขารักเท็ตสึยะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น